ประวัติกีฬาดาบไทย
โดยสังเขป
กีฬาดาบไทย หรือ ฟันดาบไทย เป็นกีฬาไทยที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทย โดยสืบเนื่องมาจากการเล่นกีฬากระบี่ – กระบอง อันเป็นมรดก เอกลักษณ์ ประจำชาติไทย มาแต่บรรพบุรุษ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผืนแผ่นดินไทยได้คงความเป็นเอกราชมาแต่อดีต จากการสู้รบด้วยอาวุธ ต่าง ๆ อาทิเช่น มีด ดาบ ง้าว หอก โล่ ฯลฯ ของบรรพบุรุษในอดีต ในปัจจุบันได้ประยุกต์มาเป็นการแสดง หรือ ประกวด กีฬากระบี่ – กระบอง ให้อนุชนรุ่นหลังได้รู้ได้เห็นจนถึงทุกวันนี้
กีฬาดาบไทย กำเนิดจาก สำนักดาบศรีไตรรัตน์ โดยการนำของนาวาตรีจรูญ ไตรรัตน์มาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2478 ได้นำกีฬากระบี่ – กระบอง มาประยุกต์พัฒนาเป็นกีฬาดาบไทย ได้คิดค้นด้วยเหตุผลให้เป็นการต่อสู้ที่ใช้สถานการณ์จริง ไม่ใช่ การแสดงหรือประกวด และตั้ง กฎ กติกา การแข่งขันขึ้นมาเป็นกีฬาแข่งขันประเภทกีฬาอนุรักษ์
กีฬาดาบไทยได้เผยแพร่ โดยนาวาตรีจรูญ ไตรรัตน์ ที่โรงเรียนนายเรือเป็นแห่งแรกต่อมาในปีพุทธศักราช 2480โดย นายโสภณ อุตตโมบล ผู้ก่อตั้งชมรมกระบี่ -กระบองคนแรกของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เรียนเชิญนาวาตรีจรูญ ไตรรัตน์ ไปสอนกีฬาดาบไทย ให้นิสิต นักศึกษาเป็นครั้งแรก เนื่องจากเห็นว่าท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญกีฬาด้านนี้
ต่อมาเริ่มมีการจัดการแข่งขันภายในคณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นแห่งแรก หลังจากจัดการแข่งขันได้รับความสนใจจากนิสิต นักศึกษามากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นกีฬาต่อสู้ เล่นได้ทั้งชายและหญิง ดังนั้นกีฬานี้ได้แพร่หลายไปตามคณะต่าง ๆ และในที่สุดชมรมต่อสู้ป้องกันตัวของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จึงจัดการแข่งขันติดต่อกันมาทุกปี โดยยกย่อง และชื่นชอบ ผู้ที่ชนะเลิศเป็น ตำแหน่ง “ขุนพลจุฬาฯ”มีอุดมคติว่า “ หยาดเหงื่อ หยดเลือด และรอยหวาย ”สุดท้ายของการจัดการแข่งขัน คือ “ ความรัก ความสามัคคีกลมเกลียวซึ่งกันและกันของนักกีฬา ”
ด้วยเหตุนี้ อีกหลายสถาบันการศึกษา ได้สนใจกีฬาชนิดนี้มากหลายแหล่ง อาทิเช่น มหาวิทยาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ศิริราช ( มหาวิทยาลัยมหิดล ) เป็นต้น
ต่อมาได้มีท่านอาจารย์ทองหล่อ ไตรรัตน์ ของสำนักดาบศรีไตรรัตน์ และท่านอาจารย์นิพนธ์ ศรี-วิจิตร ผู้สร้างชมรมต่อสู้ป้องตัว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และพัฒนาการแข่งขันกีฬาดาบไทยได้มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเพื่อให้มีความเป็นสากลมากขึ้น และสามารถแข่งขันได้ในวงกว้าง
ในปัจจุบัน สมาคมกีฬาไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ผลักดัน พัฒนากีฬาดาบไทย ให้เป็นมาตรฐานสากล และสามารถจัดเป็นกีฬาอนุรักษ์ประจำชาติไทย เหมือนกับกีฬาทั่ว ๆ ไป โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ ให้การช่วยเหลือ อาทิเช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานครกรมพลศึกษาคณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ก.ก.ม.ท) สถาบันการศึกษาภาครัฐและเอกชน ฯลฯ
ประวัติจัดการแข่งขัน
กีฬาดาบไทย
สมาคมกีฬาไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
***********************
พ.ศ.2481-2505 | จัดการแข่งขันภายในมหาวิทยาลัยที่มีกีฬาดาบไทย | ||
พ.ศ.2506 | จัดการแข่งขันหน้าพระที่นั่ง ณ ยิมเนเซียม สนามกีฬาแห่งชาติโดยสำนักดาบศรีไตรรัตน์ ร่วมกับมูลนิธิจัดหาอุปกรณ์ | ||
การศึกษาสำหรับเด็กในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตน์ราชกัญญา ได้จัดการแข่งขันฟันดาบ | |||
ไทยหรือดาบไทย ระหว่างมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ขึ้น ณ ยิมเนเซียม สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2506 | |||
โดยหม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา ได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรม | |||
โอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารเสด็จทอดพระเนตร และพระราชทานถ้วยรางวัลแก่นักกีฬา มีท่านอาจารย์ทองหล่อ | |||
ไตรรัตน์ เป็นผู้ถวายคำอธิบายระหว่างการแข่งขัน และด้วยความสนพระทัย เมื่อจบการแข่งขัน | |||
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงรับสั่งว่า “ ให้รักษากีฬานี้ไว้ อย่าทอดทิ้ง ” | |||
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ศิลปกีฬานี้จึงยังคงอยู่มาตราบเท่าทุกวันนี้ |
พ.ศ.2507-2512 | จัดการแข่งขันหมุนเวียนระหว่างมหาวิทยาลัยต่าง ๆ | ||
พ.ศ.2513 (ครั้งที่ 1) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 | ||
ระหว่าง 18 – 25 พฤศจิกายน 2513 ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2515 (ครั้งที่ 2) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 | ||
ระหว่าง 9 – 17พฤศจิกายน 2515ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2517-2518(ครั้งที่ 3) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 | ||
ระหว่าง ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2517 – 4 มกราคม 2518 | |||
ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2518-2519(ครั้งที่ 4) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4 | ||
ระหว่าง ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2518 – 4 มกราคม 2519 | |||
ณ มหาวิทยาลัยศรีนทรวิโรฒ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2520 (ครั้งที่ 5) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 5 | ||
ระหว่าง 22 – 28มกราคม2520มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ 8 มหาวิทยาลัย | |||
ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2521-2522 (ครั้งที่ 6) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 6 | ||
ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2521 – 6 มกราคม 2522 | |||
มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ4 มหาวิทยาลัยร่วมกันเป็นเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2522 (ครั้งที่ 7) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 7 | ||
ระหว่างวันที่ 9 – 16 ธันวาคม 2522 มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ | |||
5 มหาวิทยาลัยร่วมกันเป็นเจ้าภาพ |
|||
พ.ศ.2523 (ครั้งที่ 8) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 8 | ||
ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2523 | |||
ณ.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2524 (ครั้งที่ 9) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 9 | ||
ระหว่างวันที่ 24 – 31 ตุลาคม 2524 มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ | |||
5 มหาวิทยาลัย ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ |
|||
พ.ศ.2525 (ครั้งที่ 10) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 | ||
ระหว่างวันที่ 24 – 31 ตุลาคม 2525 ณ มหาวิทยาลัยครีนทรวิโรฒ | |||
วิทยาเขตบางแสน เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2526 (ครั้งที่ 11) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 11 | ||
ระหว่างวันที่ 24 – 31 ตุลาคม 2526 ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | |||
เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2527 (ครั้งที่ 12) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 12 | ||
ระหว่างวันที่ 24 – 31 ตุลาคม 2527 ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น | |||
เจ้าภาพ |
พ.ศ.2528 (ครั้งที่ 13) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 | ||
ระหว่างวันที่ 3 – 10 พฤศจิกายน 2528 ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2529 (ครั้งที่ 14) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 14 | ||
ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2529 ณ มหาวิทยาลัยสงขลา- | |||
นครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2530 (ครั้งที่ 15) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 15 | ||
ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2530 ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร- | |||
วิโรฒ วิทยาเขตบางแสน เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2531 (ครั้งที่ 16) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 16 | ||
ระหว่างวันที่ 17 – 24 ตุลาคม 2531 ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2532 (ครั้งที่ 17) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 | ||
ระหว่างวันที่ 20 – 27 ตุลาคม 2532 ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2533 (ครั้งที่ 18) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 18 | ||
ระหว่างวันที่ 23 – 30 พฤศจิกายน 2533 ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหงเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2534 (ครั้งที่ 19) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 19 | ||
ระหว่างวันที่ 8 – 15 มกราคม 2535 ณ มหาวิทยาลัยมหิดลเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2535 (ครั้งที่ 20) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20 | ||
ระหว่างวันที่ 8 – 15 มกราคม 2536 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2536 (ครั้งที่ 21) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 21 | ||
ระหว่างวันที่ 19 – 26 พฤศจิกายน 2536 ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2537 (ครั้งที่ 22) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 22 | ||
ระหว่างวันที่ 2 – 9 ธันวาคม 2537 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2539 (ครั้งที่ 23) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 23 | ||
ระหว่างวันที่ 19 – 26 มกราคม 2539 ณสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ |
|||
เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2540 (ครั้งที่ 24) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 24 | ||
ระหว่างวันที่ 14 – 21 มกราคม 2540 ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2541 (ครั้งที่ 25) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 25 | ||
ระหว่างวันที่ 9 – 16 มกราคม 2541 ณ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา | |||
เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2542 (ครั้งที่ 26) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 26 | ||
ระหว่างวันที่ 29 มกราคม 2542 – 5 กุมภาพันธ์ 2542 ณ มหาวิทยาลัย- | |||
เกษตรศาสตร์ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2543 (ครั้งที่1) | ได้รับการบรรจุเข้าแข่งขันในกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 32 “ มหานครเกมส์ ” | ||
ระหว่างวันที่ 6 – 20 ธันวาคม 2543 กรุงเทพมหานคร เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2544 (ครั้งที่ 27) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 29 | ||
ระหว่างวันที่ 9 – 16 ธันวาคม 2544 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |||
รังสิต ปทุมธานีเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2545 (ครั้งที่ 2) | ได้รับการบรรจุเข้าแข่งขันในกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 33 “ นครเชียงใหม่เกมส์ ” | ||
ระหว่างวันที่ 13-24 ธันวาคม 2545จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2546 (ครั้งที่ 28) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 31 | ||
ระหว่างวันที่ 10 – 17 มกราคม 2547 ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2548 (ครั้งที่ 29) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 33 | ||
ระหว่างวันที่ 23 – 30 ธันวาคม 2548 ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา | |||
จ.นครปฐมเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2549 (ครั้งที่ 1) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 31 “ พลศึกษาเกมส์ ”ระหว่างวันที่ 4- 12 กรกฎาคม2549 | |||
ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี จ.ชลบุรี เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2550 | จัดการแข่งขันกีฬาฟันดาบไทย เทศกาลกีฬาไทย ประจำปี 2550 | ||
ระหว่างวันที่ 10 – 18 มีนาคม 2550 ณ บริเวณท้องสนามหลวง | |||
กรุงเทพมหานครเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2550 (ครั้งที่ 2) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 32 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม | |||
2550 ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตเพชรบูรณ์ | |||
จ.เพชรบูรณ์ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2551(ครั้งที่ 30) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 35 | ||
ระหว่างวันที่ 7 – 14 มกราคม 2551 ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ |
|||
จ.นครศรีธรรมราชเจ้าภาพ | |||
พ.ศ. 2551 | จัดการแข่งขันกีฬาฟันดาบไทย เทศกาลกีฬาไทย ประจำปี 2551 | ||
ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 1 เมษายน 2551 ณ ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ | |||
กรุงเทพมหานครเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2551 (ครั้งที่ 3) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 33 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 1 – 10กรกฎาคม 2551 | |||
ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชัยภูมิจ.ชัยภูมิ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2551 (ครั้งที่ 31) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 36 | ||
ระหว่างวันที่ 11 – 18 มกราคม 2552 ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหงเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2552 (ครั้งที่ 1) | จัดการแข่งขันกีฬาดาบไทย ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 | ||
ประจำปี 2552“ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ” | |||
ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 6 เมษายน 2552 ณ โรงยิมเนเซียม | |||
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร เจ้าภาพ | |||
พ.ศ. 2552 (ครั้งที่ 4) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 34 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน – 5 กรกฎาคม | |||
พ.ศ.2552 ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุพรรณบุรี | |||
จ.สุพรรณบุรี เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2552 (ครั้งที่ 1) | จัดการแข่งขันกีฬาดาบไทย ระดับอุดมศึกษาชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 1 ประจำปี 2552 ระหว่างวันที่27-28 ธันวาคม 2552 | |||
ณ โรงฝึกกีฬา5 สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตกรุงเทพ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2553 (ครั้งที่ 32) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 37 | ||
ระหว่างวันที่ 23 – 30 มกราคม 2553 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |||
รังสิต ปทุมธานีเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2553 (ครั้งที่ 5) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 35 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 19 – 28กรกฎาคม พ.ศ.2553 | |||
ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตตรังจ.ตรัง เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2554 (ครั้งที่ 2) | จัดการแข่งขันกีฬาดาบไทย ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 | ||
ประจำปี 2554“ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ” | |||
ระหว่างวันที่ 20 – 24 มกราคม 2554 ณ อาคารสุทธิเกตุ (ศูนย์กีฬา) | |||
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กรุงเทพมหานคร เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2554 (ครั้งที่ 6) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 36 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 5 – 14สิงหาคม พ.ศ.2554 | |||
ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2554 (ครั้งที่ 3) | จัดการแข่งขันกีฬาดาบไทยเทิดไทองค์ราชัน ระดับอุดมศึกษาชิงชนะเลิศ |
||
แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 ประจำปี 2554 ระหว่างวันที่ 25 – 28 ตุลาคม | |||
2554 ณ สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2555 (ครั้งที่ 33) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยครั้งที่ 39 | ||
ระหว่างวันที่ 1 – 8 พฤษภาคม2555 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ | |||
จังหวัดสงขลาเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2555 (ครั้งที่ 7) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 37 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 21– 30 กรกฎาคม | |||
พ.ศ.2555ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตอุดรธานีจ.อุดรธานี เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2555 (ครั้งที่ 3) | จัดการแข่งขันกีฬาดาบไทย ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 | ||
ประจำปี 2555“ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ” | |||
ระหว่างวันที่ 15 – 19ธันวาคม2556 ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย | |||
กรุงเทพมหานคร เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2556 (ครั้งที่ 34) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ | ||
40 “พลบดีเกมส์” ระหว่างวันที่ 10 – 19 มกราคม 2556 |
|||
ณมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลาเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2556(ครั้งที่ 8) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 38 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 19 – 28 กรกฎาคม | |||
พ.ศ.2556 ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพรจ.อุดรธานี เจ้าภาพ |
สนามแข่งขัน
- สนามแข่งขันเป็นรูปวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 เมตร มีเส้นแสดงเขตสนามแข่งขันให้เห็นชัดเจน และมีเส้นเตือน ซึ่งอยู่ห่างจากเส้นแสดงเขตสนามแข่งขัน 1 เมตร เข้าหาศูนย์กลางโดยรอบ
- สนามแข่งขันต้องเป็นพื้นราบเรียบที่ไม่มีลักษณะอันอาจทำให้เกิดอันตรายแก่นักกีฬาในขณะแข่งขัน
- ขณะดำเนินการแข่งขันให้ถือว่าสนามแข่งขันและรอบสนามแข่งขันภายในรัศมี 6 เมตร จากจุศูนย์กลางสนามแข่งขัน หรือบริเวณรอบสนามแข่งขันซึ่งคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้กำหนด และประกาศไว้เป็นเขตหวงห้าม ผู้ที่มิใช่เป็นกรรมการตามข้อ 11 ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ หรือนักกีฬาที่กำลังแข่งขัน จะเข้าไปในเขตดังกล่าวมิได้ หากมีการฝ่าฝืนคณะกรรมการจัดการแข่งขันจะตักเตือน
อาวุธที่ใช้ในการแข่งขัน
กระบี่
– ส่วนตอนบนของโกร่งกระบี่จะต้องกว้างไม่เกิน 10.5 เซนติเมตร
– ส่วนตอนล่างของโกร่งกระบี่จะต้องกว้างไม่เกิน 6 – 7 เซนติเมตร
– ความยาวของโกร่งกระบี่จะต้องไม่เกิน 30-32 เซนติเมตร
– ขนาดความกว้างของหวายจะต้องเป็นรูปวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1- 1.5 มิลลิเมตร
– ขนาดความยาวของกระบี่เท่ากับ 105 เซนติเมตรระยะจากด้ามสุดจรดปลายกระบี่
– ส่วนด้ามจะต้องพันด้วยผ้าหรือยาง
– ส่วนปลายกระบี่พันด้วยยางหรือเทปยาวไม่เกิน 1.5 เซนติเมตร
ดาบสองมือ
– ขนาดความกว้างโกร่งกำบังมือยางจะต้องเป็นรูปวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 เซนติเมตร
– ขนาดความยาวโกร่งกำบังมือยางจะต้องไม่เกิน 1 – 1.5 เซนติเมตร
– ขนาดของฟองน้ำที่ใช้หุ้มดาบแข่งขันหนา 1 เซนติเมตร
– ขนาดความกว้างของหวายหรือวัสดุอื่นฯ จะต้องเป็นรูปวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 มิลลิเมตร
– ผ้าหุ้มฟองน้ำหรือวัสดุอื่นฯจะต้องยาวกว่าตัวดาบ 2 เซนติเมตร แล้วจะต้องเป็นรูปวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 5 เซนติเมตร
– ขนาดความยาวตลอดเท่ากับ 100 เซนติเมตรระยะจากด้ามสุดจรดปลายดาบ
– ขนาดความยาวของหวายหรือทำด้วยวัสดุอื่นฯ เท่ากับ 78 เซนติเมตร
– ขนาดความยาวของหวายหรือทำด้วยวัสดุอื่นฯ สอดในด้ามดาบ เท่ากับ 10 เซนติเมตร
– ขนาดความยาวของด้ามดาบ เท่ากับ 30 เซนติเมตร
– ขนาดความยาวห่วงหนังหรือผ้ายาวไม่เกิน 14 เซนติเมตร
เครื่องแต่งกายในการแข่งขัน
นักกีฬาที่ลงแข่งขัน จะต้องแต่งกายดังนี้
- สวมรองเท้าพื้นยาง ไม่เสริมตาปู ชนิดหุ้มส้นหรือหุ้มข้อเท้า
- สวมเสื้อยืดแขนยาวสีขาว และกางเกงกีฬาสีสุภาพเสื้อและกางเกงของนักกีฬาในทีมเดียวกัน ต้องมีสีเหมือนกัน และสีสุภาพไม่ฉูดฉาด และให้ติดสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายของสังกัด ( ถ้ามี ) ให้เห็นชัดเจน
- สวมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่ศีรษะและบริเวณใบหน้า โดยอุปกรณ์ที่ใช้จะต้องสามารถป้องกันอันตรายอันจะเกิดแก่ใบหน้า ตา และศีรษะส่วนหน้าเป็นอย่างน้อย
- มีเครื่องหมายแสดงว่าอยู่ฝ่ายแดงหรือฝ่ายน้ำเงิน ให้เห็นชัดเจน
- นักกีฬาชายต้องสวมกระจับขณะลงแข่งขัน
- นักกีฬาหญิงต้องใส่เครื่องป้องกันหน้าอกขณะลงแข่งขัน
- นักกีฬาอาจใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายอื่น อาทิ ผ้ารัดข้อ รัดแขน พันข้อมือ ถุงมือ ฯลฯ ก็ได้ นักกีฬาที่ไม่แต่งกายให้ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในข้อ 10(1) , 10(2) , 10(3) , 10(4) , 10(5) , หรือ10(6) จะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงสนามแข่งขัน
เกราะผู้ชาย
เกราะผู้หญิง
![]() |
![]() |
ประวัติกีฬาดาบไทย
โดยสังเขป
กีฬาดาบไทย หรือ ฟันดาบไทย เป็นกีฬาไทยที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทย โดยสืบเนื่องมาจากการเล่นกีฬากระบี่ – กระบอง อันเป็นมรดก เอกลักษณ์ ประจำชาติไทย มาแต่บรรพบุรุษ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผืนแผ่นดินไทยได้คงความเป็นเอกราชมาแต่อดีต จากการสู้รบด้วยอาวุธ ต่าง ๆ อาทิเช่น มีด ดาบ ง้าว หอก โล่ ฯลฯ ของบรรพบุรุษในอดีต ในปัจจุบันได้ประยุกต์มาเป็นการแสดง หรือ ประกวด กีฬากระบี่ – กระบอง ให้อนุชนรุ่นหลังได้รู้ได้เห็นจนถึงทุกวันนี้
กีฬาดาบไทย กำเนิดจาก สำนักดาบศรีไตรรัตน์ โดยการนำของนาวาตรีจรูญ ไตรรัตน์มาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2478 ได้นำกีฬากระบี่ – กระบอง มาประยุกต์พัฒนาเป็นกีฬาดาบไทย ได้คิดค้นด้วยเหตุผลให้เป็นการต่อสู้ที่ใช้สถานการณ์จริง ไม่ใช่ การแสดงหรือประกวด และตั้ง กฎ กติกา การแข่งขันขึ้นมาเป็นกีฬาแข่งขันประเภทกีฬาอนุรักษ์
กีฬาดาบไทยได้เผยแพร่ โดยนาวาตรีจรูญ ไตรรัตน์ ที่โรงเรียนนายเรือเป็นแห่งแรกต่อมาในปีพุทธศักราช 2480โดย นายโสภณ อุตตโมบล ผู้ก่อตั้งชมรมกระบี่ -กระบองคนแรกของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เรียนเชิญนาวาตรีจรูญ ไตรรัตน์ ไปสอนกีฬาดาบไทย ให้นิสิต นักศึกษาเป็นครั้งแรก เนื่องจากเห็นว่าท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญกีฬาด้านนี้
ต่อมาเริ่มมีการจัดการแข่งขันภายในคณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นแห่งแรก หลังจากจัดการแข่งขันได้รับความสนใจจากนิสิต นักศึกษามากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นกีฬาต่อสู้ เล่นได้ทั้งชายและหญิง ดังนั้นกีฬานี้ได้แพร่หลายไปตามคณะต่าง ๆ และในที่สุดชมรมต่อสู้ป้องกันตัวของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จึงจัดการแข่งขันติดต่อกันมาทุกปี โดยยกย่อง และชื่นชอบ ผู้ที่ชนะเลิศเป็น ตำแหน่ง “ขุนพลจุฬาฯ”มีอุดมคติว่า “ หยาดเหงื่อ หยดเลือด และรอยหวาย ”สุดท้ายของการจัดการแข่งขัน คือ “ ความรัก ความสามัคคีกลมเกลียวซึ่งกันและกันของนักกีฬา ”
ด้วยเหตุนี้ อีกหลายสถาบันการศึกษา ได้สนใจกีฬาชนิดนี้มากหลายแหล่ง อาทิเช่น มหาวิทยาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ศิริราช ( มหาวิทยาลัยมหิดล ) เป็นต้น
ต่อมาได้มีท่านอาจารย์ทองหล่อ ไตรรัตน์ ของสำนักดาบศรีไตรรัตน์ และท่านอาจารย์นิพนธ์ ศรี-วิจิตร ผู้สร้างชมรมต่อสู้ป้องตัว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และพัฒนาการแข่งขันกีฬาดาบไทยได้มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเพื่อให้มีความเป็นสากลมากขึ้น และสามารถแข่งขันได้ในวงกว้าง
ในปัจจุบัน สมาคมกีฬาไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ผลักดัน พัฒนากีฬาดาบไทย ให้เป็นมาตรฐานสากล และสามารถจัดเป็นกีฬาอนุรักษ์ประจำชาติไทย เหมือนกับกีฬาทั่ว ๆ ไป โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ ให้การช่วยเหลือ อาทิเช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานครกรมพลศึกษาคณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ก.ก.ม.ท) สถาบันการศึกษาภาครัฐและเอกชน ฯลฯ
ประวัติจัดการแข่งขัน
กีฬาดาบไทย
สมาคมกีฬาไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
***********************
พ.ศ.2481-2505 | จัดการแข่งขันภายในมหาวิทยาลัยที่มีกีฬาดาบไทย | ||
พ.ศ.2506 | จัดการแข่งขันหน้าพระที่นั่ง ณ ยิมเนเซียม สนามกีฬาแห่งชาติโดยสำนักดาบศรีไตรรัตน์ ร่วมกับมูลนิธิจัดหาอุปกรณ์ | ||
การศึกษาสำหรับเด็กในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตน์ราชกัญญา ได้จัดการแข่งขันฟันดาบ | |||
ไทยหรือดาบไทย ระหว่างมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ขึ้น ณ ยิมเนเซียม สนามกีฬาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2506 | |||
โดยหม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา ได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรม | |||
โอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารเสด็จทอดพระเนตร และพระราชทานถ้วยรางวัลแก่นักกีฬา มีท่านอาจารย์ทองหล่อ | |||
ไตรรัตน์ เป็นผู้ถวายคำอธิบายระหว่างการแข่งขัน และด้วยความสนพระทัย เมื่อจบการแข่งขัน | |||
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงรับสั่งว่า “ ให้รักษากีฬานี้ไว้ อย่าทอดทิ้ง ” | |||
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ศิลปกีฬานี้จึงยังคงอยู่มาตราบเท่าทุกวันนี้ |
พ.ศ.2507-2512 | จัดการแข่งขันหมุนเวียนระหว่างมหาวิทยาลัยต่าง ๆ | ||
พ.ศ.2513 (ครั้งที่ 1) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 | ||
ระหว่าง 18 – 25 พฤศจิกายน 2513 ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2515 (ครั้งที่ 2) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 | ||
ระหว่าง 9 – 17พฤศจิกายน 2515ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2517-2518(ครั้งที่ 3) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 | ||
ระหว่าง ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2517 – 4 มกราคม 2518 | |||
ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2518-2519(ครั้งที่ 4) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4 | ||
ระหว่าง ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2518 – 4 มกราคม 2519 | |||
ณ มหาวิทยาลัยศรีนทรวิโรฒ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2520 (ครั้งที่ 5) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 5 | ||
ระหว่าง 22 – 28มกราคม2520มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ 8 มหาวิทยาลัย | |||
ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2521-2522 (ครั้งที่ 6) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 6 | ||
ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2521 – 6 มกราคม 2522 | |||
มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ4 มหาวิทยาลัยร่วมกันเป็นเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2522 (ครั้งที่ 7) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 7 | ||
ระหว่างวันที่ 9 – 16 ธันวาคม 2522 มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ | |||
5 มหาวิทยาลัยร่วมกันเป็นเจ้าภาพ |
|||
พ.ศ.2523 (ครั้งที่ 8) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 8 | ||
ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2523 | |||
ณ.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2524 (ครั้งที่ 9) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 9 | ||
ระหว่างวันที่ 24 – 31 ตุลาคม 2524 มหาวิทยาลัยในกรุงเทพ | |||
5 มหาวิทยาลัย ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ |
|||
พ.ศ.2525 (ครั้งที่ 10) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 | ||
ระหว่างวันที่ 24 – 31 ตุลาคม 2525 ณ มหาวิทยาลัยครีนทรวิโรฒ | |||
วิทยาเขตบางแสน เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2526 (ครั้งที่ 11) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 11 | ||
ระหว่างวันที่ 24 – 31 ตุลาคม 2526 ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | |||
เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2527 (ครั้งที่ 12) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 12 | ||
ระหว่างวันที่ 24 – 31 ตุลาคม 2527 ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น | |||
เจ้าภาพ |
พ.ศ.2528 (ครั้งที่ 13) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 | ||
ระหว่างวันที่ 3 – 10 พฤศจิกายน 2528 ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2529 (ครั้งที่ 14) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 14 | ||
ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2529 ณ มหาวิทยาลัยสงขลา- | |||
นครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2530 (ครั้งที่ 15) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 15 | ||
ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2530 ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร- | |||
วิโรฒ วิทยาเขตบางแสน เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2531 (ครั้งที่ 16) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 16 | ||
ระหว่างวันที่ 17 – 24 ตุลาคม 2531 ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2532 (ครั้งที่ 17) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 17 | ||
ระหว่างวันที่ 20 – 27 ตุลาคม 2532 ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2533 (ครั้งที่ 18) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 18 | ||
ระหว่างวันที่ 23 – 30 พฤศจิกายน 2533 ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหงเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2534 (ครั้งที่ 19) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 19 | ||
ระหว่างวันที่ 8 – 15 มกราคม 2535 ณ มหาวิทยาลัยมหิดลเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2535 (ครั้งที่ 20) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20 | ||
ระหว่างวันที่ 8 – 15 มกราคม 2536 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2536 (ครั้งที่ 21) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 21 | ||
ระหว่างวันที่ 19 – 26 พฤศจิกายน 2536 ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2537 (ครั้งที่ 22) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 22 | ||
ระหว่างวันที่ 2 – 9 ธันวาคม 2537 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2539 (ครั้งที่ 23) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 23 | ||
ระหว่างวันที่ 19 – 26 มกราคม 2539 ณสถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ |
|||
เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2540 (ครั้งที่ 24) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 24 | ||
ระหว่างวันที่ 14 – 21 มกราคม 2540 ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2541 (ครั้งที่ 25) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 25 | ||
ระหว่างวันที่ 9 – 16 มกราคม 2541 ณ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา | |||
เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2542 (ครั้งที่ 26) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 26 | ||
ระหว่างวันที่ 29 มกราคม 2542 – 5 กุมภาพันธ์ 2542 ณ มหาวิทยาลัย- | |||
เกษตรศาสตร์ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2543 (ครั้งที่1) | ได้รับการบรรจุเข้าแข่งขันในกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 32 “ มหานครเกมส์ ” | ||
ระหว่างวันที่ 6 – 20 ธันวาคม 2543 กรุงเทพมหานคร เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2544 (ครั้งที่ 27) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 29 | ||
ระหว่างวันที่ 9 – 16 ธันวาคม 2544 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |||
รังสิต ปทุมธานีเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2545 (ครั้งที่ 2) | ได้รับการบรรจุเข้าแข่งขันในกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 33 “ นครเชียงใหม่เกมส์ ” | ||
ระหว่างวันที่ 13-24 ธันวาคม 2545จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2546 (ครั้งที่ 28) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 31 | ||
ระหว่างวันที่ 10 – 17 มกราคม 2547 ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2548 (ครั้งที่ 29) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 33 | ||
ระหว่างวันที่ 23 – 30 ธันวาคม 2548 ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา | |||
จ.นครปฐมเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2549 (ครั้งที่ 1) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 31 “ พลศึกษาเกมส์ ”ระหว่างวันที่ 4- 12 กรกฎาคม2549 | |||
ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชลบุรี จ.ชลบุรี เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2550 | จัดการแข่งขันกีฬาฟันดาบไทย เทศกาลกีฬาไทย ประจำปี 2550 | ||
ระหว่างวันที่ 10 – 18 มีนาคม 2550 ณ บริเวณท้องสนามหลวง | |||
กรุงเทพมหานครเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2550 (ครั้งที่ 2) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 32 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม | |||
2550 ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตเพชรบูรณ์ | |||
จ.เพชรบูรณ์ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2551(ครั้งที่ 30) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 35 | ||
ระหว่างวันที่ 7 – 14 มกราคม 2551 ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ |
|||
จ.นครศรีธรรมราชเจ้าภาพ | |||
พ.ศ. 2551 | จัดการแข่งขันกีฬาฟันดาบไทย เทศกาลกีฬาไทย ประจำปี 2551 | ||
ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 1 เมษายน 2551 ณ ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ | |||
กรุงเทพมหานครเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2551 (ครั้งที่ 3) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 33 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 1 – 10กรกฎาคม 2551 | |||
ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชัยภูมิจ.ชัยภูมิ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2551 (ครั้งที่ 31) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 36 | ||
ระหว่างวันที่ 11 – 18 มกราคม 2552 ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหงเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2552 (ครั้งที่ 1) | จัดการแข่งขันกีฬาดาบไทย ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 | ||
ประจำปี 2552“ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ” | |||
ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 6 เมษายน 2552 ณ โรงยิมเนเซียม | |||
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร เจ้าภาพ | |||
พ.ศ. 2552 (ครั้งที่ 4) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 34 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน – 5 กรกฎาคม | |||
พ.ศ.2552 ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุพรรณบุรี | |||
จ.สุพรรณบุรี เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2552 (ครั้งที่ 1) | จัดการแข่งขันกีฬาดาบไทย ระดับอุดมศึกษาชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 1 ประจำปี 2552 ระหว่างวันที่27-28 ธันวาคม 2552 | |||
ณ โรงฝึกกีฬา5 สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตกรุงเทพ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2553 (ครั้งที่ 32) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 37 | ||
ระหว่างวันที่ 23 – 30 มกราคม 2553 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ | |||
รังสิต ปทุมธานีเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2553 (ครั้งที่ 5) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 35 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 19 – 28กรกฎาคม พ.ศ.2553 | |||
ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตตรังจ.ตรัง เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2554 (ครั้งที่ 2) | จัดการแข่งขันกีฬาดาบไทย ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 | ||
ประจำปี 2554“ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ” | |||
ระหว่างวันที่ 20 – 24 มกราคม 2554 ณ อาคารสุทธิเกตุ (ศูนย์กีฬา) | |||
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กรุงเทพมหานคร เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2554 (ครั้งที่ 6) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 36 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 5 – 14สิงหาคม พ.ศ.2554 | |||
ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2554 (ครั้งที่ 3) | จัดการแข่งขันกีฬาดาบไทยเทิดไทองค์ราชัน ระดับอุดมศึกษาชิงชนะเลิศ |
||
แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 ประจำปี 2554 ระหว่างวันที่ 25 – 28 ตุลาคม | |||
2554 ณ สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2555 (ครั้งที่ 33) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยครั้งที่ 39 | ||
ระหว่างวันที่ 1 – 8 พฤษภาคม2555 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ | |||
จังหวัดสงขลาเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2555 (ครั้งที่ 7) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 37 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 21– 30 กรกฎาคม | |||
พ.ศ.2555ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตอุดรธานีจ.อุดรธานี เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2555 (ครั้งที่ 3) | จัดการแข่งขันกีฬาดาบไทย ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3 | ||
ประจำปี 2555“ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ” | |||
ระหว่างวันที่ 15 – 19ธันวาคม2556 ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย | |||
กรุงเทพมหานคร เจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2556 (ครั้งที่ 34) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ | ||
40 “พลบดีเกมส์” ระหว่างวันที่ 10 – 19 มกราคม 2556 |
|||
ณมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลาเจ้าภาพ | |||
พ.ศ.2556(ครั้งที่ 8) | ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาสถาบันการพลศึกษาแห่งประเทศไทย | ||
ครั้งที่ 38 “พลศึกษาเกมส์ ” ในระหว่างวันที่ 19 – 28 กรกฎาคม | |||
พ.ศ.2556 ณ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพรจ.อุดรธานี เจ้าภาพ |
สนามแข่งขัน
- สนามแข่งขันเป็นรูปวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 เมตร มีเส้นแสดงเขตสนามแข่งขันให้เห็นชัดเจน และมีเส้นเตือน ซึ่งอยู่ห่างจากเส้นแสดงเขตสนามแข่งขัน 1 เมตร เข้าหาศูนย์กลางโดยรอบ
- สนามแข่งขันต้องเป็นพื้นราบเรียบที่ไม่มีลักษณะอันอาจทำให้เกิดอันตรายแก่นักกีฬาในขณะแข่งขัน
- ขณะดำเนินการแข่งขันให้ถือว่าสนามแข่งขันและรอบสนามแข่งขันภายในรัศมี 6 เมตร จากจุศูนย์กลางสนามแข่งขัน หรือบริเวณรอบสนามแข่งขันซึ่งคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้กำหนด และประกาศไว้เป็นเขตหวงห้าม ผู้ที่มิใช่เป็นกรรมการตามข้อ 11 ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ หรือนักกีฬาที่กำลังแข่งขัน จะเข้าไปในเขตดังกล่าวมิได้ หากมีการฝ่าฝืนคณะกรรมการจัดการแข่งขันจะตักเตือน
อาวุธที่ใช้ในการแข่งขัน
กระบี่
– ส่วนตอนบนของโกร่งกระบี่จะต้องกว้างไม่เกิน 10.5 เซนติเมตร
– ส่วนตอนล่างของโกร่งกระบี่จะต้องกว้างไม่เกิน 6 – 7 เซนติเมตร
– ความยาวของโกร่งกระบี่จะต้องไม่เกิน 30-32 เซนติเมตร
– ขนาดความกว้างของหวายจะต้องเป็นรูปวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1- 1.5 มิลลิเมตร
– ขนาดความยาวของกระบี่เท่ากับ 105 เซนติเมตรระยะจากด้ามสุดจรดปลายกระบี่
– ส่วนด้ามจะต้องพันด้วยผ้าหรือยาง
– ส่วนปลายกระบี่พันด้วยยางหรือเทปยาวไม่เกิน 1.5 เซนติเมตร
ดาบสองมือ
– ขนาดความกว้างโกร่งกำบังมือยางจะต้องเป็นรูปวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 เซนติเมตร
– ขนาดความยาวโกร่งกำบังมือยางจะต้องไม่เกิน 1 – 1.5 เซนติเมตร
– ขนาดของฟองน้ำที่ใช้หุ้มดาบแข่งขันหนา 1 เซนติเมตร
– ขนาดความกว้างของหวายหรือวัสดุอื่นฯ จะต้องเป็นรูปวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 มิลลิเมตร
– ผ้าหุ้มฟองน้ำหรือวัสดุอื่นฯจะต้องยาวกว่าตัวดาบ 2 เซนติเมตร แล้วจะต้องเป็นรูปวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 5 เซนติเมตร
– ขนาดความยาวตลอดเท่ากับ 100 เซนติเมตรระยะจากด้ามสุดจรดปลายดาบ
– ขนาดความยาวของหวายหรือทำด้วยวัสดุอื่นฯ เท่ากับ 78 เซนติเมตร
– ขนาดความยาวของหวายหรือทำด้วยวัสดุอื่นฯ สอดในด้ามดาบ เท่ากับ 10 เซนติเมตร
– ขนาดความยาวของด้ามดาบ เท่ากับ 30 เซนติเมตร
– ขนาดความยาวห่วงหนังหรือผ้ายาวไม่เกิน 14 เซนติเมตร
เครื่องแต่งกายในการแข่งขัน
นักกีฬาที่ลงแข่งขัน จะต้องแต่งกายดังนี้
- สวมรองเท้าพื้นยาง ไม่เสริมตาปู ชนิดหุ้มส้นหรือหุ้มข้อเท้า
- สวมเสื้อยืดแขนยาวสีขาว และกางเกงกีฬาสีสุภาพเสื้อและกางเกงของนักกีฬาในทีมเดียวกัน ต้องมีสีเหมือนกัน และสีสุภาพไม่ฉูดฉาด และให้ติดสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายของสังกัด ( ถ้ามี ) ให้เห็นชัดเจน
- สวมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่ศีรษะและบริเวณใบหน้า โดยอุปกรณ์ที่ใช้จะต้องสามารถป้องกันอันตรายอันจะเกิดแก่ใบหน้า ตา และศีรษะส่วนหน้าเป็นอย่างน้อย
- มีเครื่องหมายแสดงว่าอยู่ฝ่ายแดงหรือฝ่ายน้ำเงิน ให้เห็นชัดเจน
- นักกีฬาชายต้องสวมกระจับขณะลงแข่งขัน
- นักกีฬาหญิงต้องใส่เครื่องป้องกันหน้าอกขณะลงแข่งขัน
- นักกีฬาอาจใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายอื่น อาทิ ผ้ารัดข้อ รัดแขน พันข้อมือ ถุงมือ ฯลฯ ก็ได้ นักกีฬาที่ไม่แต่งกายให้ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในข้อ 10(1) , 10(2) , 10(3) , 10(4) , 10(5) , หรือ10(6) จะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงสนามแข่งขัน
เกราะผู้ชาย
เกราะผู้หญิง
![]() |
![]() |