ตะกร้อลอดห่วง

กีฬาแห่งน้ำใจและไมตรี ไม่มีแบ่งเพศแบ่งวัยและฝีมือ เล่นที่ไหน เมื่อไหร่ กับใครก็ได้ ขอให้มีลูกหวายกลมๆ เพียงลูกเดียว

ตะกร้อลอดห่วง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าตะกร้อลอดบ่วงหรือตะกร้อห่วงชัย เป็นกีฬาที่มีห่วงอยู่เบื้องสูง ผู้เล่นจะเตะตะกร้อให้โด่งขึ้นไปเข้าห่วง สนามที่ใช้ในการแข่งขันเป็นพื้นราบกว้าง 18 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 16 เมตร อยู่กลางแจ้ง จะแขวนห่วงชัยประกอบด้วยวงกลม 3 ห่วง ขนาดเท่ากัน เส้นผ่าศูนย์กลางปากห่วงกว้าง 45 เซนติเมตร แขวนสูงจากพื้น 5.75 เมตร มีผู้เล่น 1 ชุด มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 6 คนและไม่เกิน 7 คน ต้องเตะให้ตะกร้อเข้าห่วงชัยให้มากที่สุดในเวลา 40 นาที ซึ่งใช้ท่าเตะ 30 ท่า แต่ละท่ามีคะแนนมากน้อยตามความยากง่าย

ตะกร้อลอดห่วง เพราะเป็นกีฬาไทยๆ ที่มีความสวยงามทุกท่วงท่า และยังต้องมีทักษะเฉพาะด้านอีกด้วยหลายคนอาจมองตะกร้อลอดห่วงเป็นกีฬาโบราณที่มีแต่คนแก่ๆ เล่นแถมยังเล่นยาก แต่ในตอนนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนกติกาให้เหมาะสมกับผู้เล่นทุกกลุ่ม ทำให้มีผู้สนใจหันมาเล่นตะกร้อลอดห่วงอย่างแพร่หลายมากขึ้น

ตะกร้อลอดห่วง เป็นกีฬาของไทยอย่างแท้จริง ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย มีที่มาจากการทำโทษประชาชนที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งสมัยนั้นจะถูกลงโทษด้วยการจับยัดใส่ลูกตะกร้อที่มีขนาดใหญ่และให้ช้างเตะไปมา ต่อมาจึงได้ค่อยๆ ประยุกต์เป็นกีฬาตะกร้อลอดห่วงขึ้น ซึ่งมีนายยิ้ม สีหน หัวหน้าทีมวัดสิบ เป็นผู้บุกเบิกคิดค้นกติกาวิธีการเล่นจนเป็นตะกร้อลอดห่วงสืบจนถึงปัจจุบัน

แรกเริ่มเดิมทีลูกตะกร้อทำมาจากหวาย แต่เพราะมีความหนัก แข็ง ทั้งรูปทรงยังเปลี่ยนตามสภาพอากาศได้อีก จึงได้เปลี่ยนวัสดุเป็นพลาสติกเพื่อให้มีมาตรฐานและยุติธรรมในการแข่งขันดัง ที่เห็นทุกวันนี้

1. สนามแข่งขัน

สนามเป็นพื้นราบ จะอยู่ในร่มหรือกลางแจ้งก็ได้ วัดจากพื้นสนามขึ้นไปอย่างน้อยประมาณ 8 เมตร ต้องไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ และให้มีวงกลมรัศมี 2 เมตร จากจุดศูนย์กลางสนาม ความกว้างของเส้นวงกลม มีความกว้าง 4 เซนติเมตร มีห่วงชัยแขวนอยู่ ณ จุดศูนย์กลางของวงกลม โดยเชือกที่แขวนห่วง มีความยาวจากรอกไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร

2. ห่วงชัย

ห่วงชัยประกอบด้วยวงกลม 3 ช่อง ขนาดเท่ากัน มีเส้นผ่าศูนย์กลางวัดจากภายใน กว้าง 45 เซนติเมตร ห่วงทั้ง 3 นี้ จะทำด้วย โลหะ หวาย หรือไม้ ก็ได้ แต่ต้องผูกหรือบัดกรีติดกันแน่นเป็นรูป 3 เส้า วงห่วงแต่ละห่วงตั้งตรง และหุ้มด้วยวัสดุที่มีความนุ่มแล้ว วัดโดยรอบไม่เกิน 10 เซนติเมตร และมีถุงตาข่ายทำด้วยด้ายสีขาว ผูกรอบห่วงทุกห่วง

ห่วงชัย ต้องแขวนกลางสนาม ขอบล่างของห่วงชัย ต้องได้ระดับสูงจากพื้นสนาม ดังนี้
-ประเภทเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปีและหญิง ความสูงของห่วงชัย 5.50 เมตร
– ประเภทประชาชน ความสูงของห่วงชัย 5.70 เมตร

3. ตะกร้อที่ใช้แข่งขัน

ตะกร้อให้สานด้วยหวาย 9-11 เส้น หรือผลิตด้วยใยสังเคราะห์ ซึ่งให้มีขนาดและน้ำหนัก ดังนี้

– ประเภทเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี และหญิง ขนาดเส้นรอบวง ไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 200 กรัม

– ประเภทประชาชน ขนาดเส้นรอบวงไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 240 กรัม

ห้ฝ่ายจัดการแข่งขัน จัดลูกตะกร้อไว้ ให้ผู้เข้าแข่งขัน ในกรณีที่ผู้เข้าแข่งขันนำลูกตะกร้อมาเอง จะต้องผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการฯ ก่อนการแข่งขันทุกครั้ง หากลูกตะกร้อที่นำมาเองไม่ถูกต้องตามกติกา ต้องใช้ลูกตะกร้อที่คณะกรรมการฯ จัดไว้ ทำการแข่งขัน

ภาพประกอบการเล่น

ลูกศีรษะ (ลูกโหม่ง) ลูกข้างเท้าด้านใน(ลูกแป)
ลูกไหล่ ลูกเข่า
ลูกข้างเท้าด้านนอก (ลูกข้าง) ลูกกระโดดไขว้

ลูกเตะด้านหลัง(โค้งหลัง)

ลูกเตะด้านหน้า(หลังเท้า)

ตะกร้อลอดห่วง

กีฬาแห่งน้ำใจและไมตรี ไม่มีแบ่งเพศแบ่งวัยและฝีมือ เล่นที่ไหน เมื่อไหร่ กับใครก็ได้ ขอให้มีลูกหวายกลมๆ เพียงลูกเดียว

ตะกร้อลอดห่วง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าตะกร้อลอดบ่วงหรือตะกร้อห่วงชัย เป็นกีฬาที่มีห่วงอยู่เบื้องสูง    ผู้เล่นจะเตะตะกร้อให้โด่งขึ้นไปเข้าห่วง สนามที่ใช้ในการแข่งขันเป็นพื้นราบกว้าง 18 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 16 เมตร อยู่กลางแจ้ง จะแขวนห่วงชัยประกอบด้วยวงกลม 3 ห่วง ขนาดเท่ากัน เส้นผ่าศูนย์กลางปากห่วงกว้าง 45 เซนติเมตร แขวนสูงจากพื้น 5.75 เมตร มีผู้เล่น 1 ชุด มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 6 คนและไม่เกิน 7 คน ต้องเตะให้ตะกร้อเข้าห่วงชัยให้มากที่สุดในเวลา 40 นาที ซึ่งใช้ท่าเตะ 30 ท่า แต่ละท่ามีคะแนนมากน้อยตามความยากง่าย

ตะกร้อลอดห่วง เพราะเป็นกีฬาไทยๆ ที่มีความสวยงามทุกท่วงท่า และยังต้องมีทักษะเฉพาะด้านอีกด้วยหลายคนอาจมองตะกร้อลอดห่วงเป็นกีฬาโบราณที่มีแต่คนแก่ๆ เล่นแถมยังเล่นยาก แต่ในตอนนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนกติกาให้เหมาะสมกับผู้เล่นทุกกลุ่ม ทำให้มีผู้สนใจหันมาเล่นตะกร้อลอดห่วงอย่างแพร่หลายมากขึ้น

ตะกร้อลอดห่วง เป็นกีฬาของไทยอย่างแท้จริง ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย มีที่มาจากการทำโทษประชาชนที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งสมัยนั้นจะถูกลงโทษด้วยการจับยัดใส่ลูกตะกร้อที่มีขนาดใหญ่และให้ช้างเตะไปมา ต่อมาจึงได้ค่อยๆ ประยุกต์เป็นกีฬาตะกร้อลอดห่วงขึ้น ซึ่งมีนายยิ้ม สีหน หัวหน้าทีมวัดสิบ เป็นผู้บุกเบิกคิดค้นกติกาวิธีการเล่นจนเป็นตะกร้อลอดห่วงสืบจนถึงปัจจุบัน

แรกเริ่มเดิมทีลูกตะกร้อทำมาจากหวาย แต่เพราะมีความหนัก แข็ง ทั้งรูปทรงยังเปลี่ยนตามสภาพอากาศได้อีก จึงได้เปลี่ยนวัสดุเป็นพลาสติกเพื่อให้มีมาตรฐานและยุติธรรมในการแข่งขันดัง ที่เห็นทุกวันนี้

1. สนามแข่งขัน

สนามเป็นพื้นราบ จะอยู่ในร่มหรือกลางแจ้งก็ได้ วัดจากพื้นสนามขึ้นไปอย่างน้อยประมาณ 8 เมตร ต้องไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ และให้มีวงกลมรัศมี 2 เมตร จากจุดศูนย์กลางสนาม ความกว้างของเส้นวงกลม มีความกว้าง 4 เซนติเมตร มีห่วงชัยแขวนอยู่ ณ จุดศูนย์กลางของวงกลม โดยเชือกที่แขวนห่วง มีความยาวจากรอกไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร

2. ห่วงชัย

ห่วงชัยประกอบด้วยวงกลม 3 ช่อง ขนาดเท่ากัน มีเส้นผ่าศูนย์กลางวัดจากภายใน กว้าง 45 เซนติเมตร ห่วงทั้ง 3 นี้ จะทำด้วย โลหะ หวาย หรือไม้ ก็ได้ แต่ต้องผูกหรือบัดกรีติดกันแน่นเป็นรูป 3 เส้า วงห่วงแต่ละห่วงตั้งตรง และหุ้มด้วยวัสดุที่มีความนุ่มแล้ว วัดโดยรอบไม่เกิน 10 เซนติเมตร และมีถุงตาข่ายทำด้วยด้ายสีขาว ผูกรอบห่วงทุกห่วง

ห่วงชัย ต้องแขวนกลางสนาม ขอบล่างของห่วงชัย ต้องได้ระดับสูงจากพื้นสนาม ดังนี้
-ประเภทเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปีและหญิง ความสูงของห่วงชัย  5.50 เมตร
– ประเภทประชาชน ความสูงของห่วงชัย   5.70 เมตร

3. ตะกร้อที่ใช้แข่งขัน

ตะกร้อให้สานด้วยหวาย 9-11 เส้น หรือผลิตด้วยใยสังเคราะห์ ซึ่งให้มีขนาดและน้ำหนัก ดังนี้

– ประเภทเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี และหญิง   ขนาดเส้นรอบวง ไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร  และน้ำหนักไม่เกิน 200 กรัม

– ประเภทประชาชน ขนาดเส้นรอบวงไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 240 กรัม

ห้ฝ่ายจัดการแข่งขัน จัดลูกตะกร้อไว้ ให้ผู้เข้าแข่งขัน ในกรณีที่ผู้เข้าแข่งขันนำลูกตะกร้อมาเอง จะต้องผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการฯ ก่อนการแข่งขันทุกครั้ง หากลูกตะกร้อที่นำมาเองไม่ถูกต้องตามกติกา ต้องใช้ลูกตะกร้อที่คณะกรรมการฯ จัดไว้ ทำการแข่งขัน

 ภาพประกอบการเล่น

   
ลูกศีรษะ (ลูกโหม่ง) ลูกข้างเท้าด้านใน(ลูกแป)
   
ลูกไหล่ ลูกเข่า
   
ลูกข้างเท้าด้านนอก (ลูกข้าง) ลูกกระโดดไขว้
   

ลูกเตะด้านหลัง(โค้งหลัง)

ลูกเตะด้านหน้า(หลังเท้า)